ทำความรู้จักโปรแกรม Hide My Ass! Pro VPN

Hide My Ass! Pro VPN ถ้าคุณคิดที่จะล่องหนบนโลกออนไลน์ นี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คลิกเพื่ออ่านความสามารถขอโปรแกรมนี้กันเลย..

ทำความรู้จักโปรแกรม Hide My Ass! Pro VPN

Hide My Ass! Pro VPN ถ้าคุณคิดที่จะล่องหนบนโลกออนไลน์ นี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คลิกเพื่ออ่านความสามารถขอโปรแกรมนี้กันเลย..

ทำความรู้จักโปรแกรม Hide My Ass! Pro VPN

Hide My Ass! Pro VPN ถ้าคุณคิดที่จะล่องหนบนโลกออนไลน์ นี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คลิกเพื่ออ่านความสามารถขอโปรแกรมนี้กันเลย..

ทำความรู้จักโปรแกรม Hide My Ass! Pro VPN

Hide My Ass! Pro VPN ถ้าคุณคิดที่จะล่องหนบนโลกออนไลน์ นี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คลิกเพื่ออ่านความสามารถขอโปรแกรมนี้กันเลย..

ทำความรู้จักโปรแกรม Hide My Ass! Pro VPN

Hide My Ass! Pro VPN ถ้าคุณคิดที่จะล่องหนบนโลกออนไลน์ นี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด คลิกเพื่ออ่านความสามารถขอโปรแกรมนี้กันเลย..

Labels:

VPN กับ Proxy ต่างกันอย่างไร?


 VPN และ Proxy เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบเรียลไทม์ (real-time) แต่มีความแตกต่างกันดังนี้


1. การใช้งาน: VPN ใช้งานโดยการเชื่อมต่อเครือข่ายจากอุปกรณ์ของผู้ใช้งานไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ VPN ซึ่งจะเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ส่วน Proxy จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อเครือข่ายแทนผู้ใช้งาน


2. การปกป้องข้อมูล: VPN จะเข้ารหัสข้อมูลก่อนส่งผ่านเครือข่าย ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีไม่สามารถดักจับและอ่านข้อมูลได้ ส่วน Proxy จะไม่เข้ารหัสข้อมูลที่ผ่านเครือข่าย


3. ความเร็ว: VPN มีการเชื่อมต่อแบบเป็นส่วนตัว (dedicated connection) ซึ่งทำให้มีความเร็วในการเชื่อมต่อสูงกว่า Proxy ที่จะใช้เครือข่ายร่วมกันกับผู้ใช้งานอื่นๆ ในบริเวณเดียวกัน


4. การเข้าถึงเนื้อหา: VPN ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดภายในเครือข่ายได้ ส่วน Proxy อาจช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดได้บางส่วน แต่ไม่สามารถเป็นที่เชื่อมต่อกับเนื้อหาที่ถูกจำกัดได้อย่างเต็มที่เหมือน VPN

Image source: https://www.smartdnsproxy.com/news/vpn/key-differences-between-proxies-and-vpns-518.aspx

0 comments
Labels:

VPN ยังจำเป็นไหม?

การใช้ VPN (Virtual Private Network) ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะในการทำงานระยะไกล (remote work) หรือการใช้งานอินเทอร์เน็ตในที่สาธารณะ เนื่องจาก VPN ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งานจากการถูกโจมตีจากผู้ไม่ประสงค์ดี และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่ได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัสข้อมูล (unencrypted) ซึ่งอาจทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้าถึงและดักจับข้อมูลของผู้ใช้งานได้โดยง่าย ดังนั้น VPN ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัวหรือธุรกิจก็ตาม การใช้ VPN ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรละเลย.


ในยุคปัจจุบัน VPN เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในช่วงการทำงานระยะไกล (remote work) ที่ผู้ใช้งานต้องเชื่อมต่อกับเครือข่ายขององค์กรผ่านอินเทอร์เน็ต การใช้ VPN จะช่วยป้องกันการเจาะระบบและการดักจับข้อมูลของผู้ไม่ประสงค์ดีได้ นอกจากนี้ VPN ยังช่วยเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดภายในเครือข่ายในบางกรณี เช่น การเข้าถึงเนื้อหาจากต่างประเทศ หรือการใช้งานบริการเว็บไซต์ที่มีการจำกัดตามพื้นที่ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการติดตามการใช้งานของผู้ใช้งานด้วย


นอกจากการใช้งาน VPN สำหรับการทำงานระยะไกลแล้ว ยังมีการใช้งาน VPN เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตในที่สาธารณะ เช่น การเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะในสถานที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการดักจับข้อมูลและการโจมตีร้ายแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายในสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้นการใช้งาน VPN ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน.

0 comments
 
VPN Hide IP © 2012-2013 | Designed by Plantillas Blogger | ข่าวไอที โดย ไอทีเมามันส์