Labels:

Private network แตกต่างจาก Public Network อย่างไร?

Private network คือเครือข่ายภายในของแต่ละบริษัท (Public Network คือเครือข่าย สาธารณะเช่น Internet) Private network เกิดจากการที่บริษัทต้องการเชื่อมเครืข่ายของแต่ละสาขา สำนักงาน เข้าด้วยกัน (กรณีพวกที่เชื่อมต่อด้วย TCP / IP เลขที่ IP ก็จะกำหนดเป็น 10.xxx.xxx.xxx หรือ 192.168.xxx.xxx หรือ 172.16.xxx.xxx) ในสมัยก่อนจะทำการเชื่อมต่อด้วย leased line หลังจากที่เกิดการเติบโตของการใช้งาน Internet และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง การปรับปรุงในเรื่อง ความเร็วของการเชื่อมต่อ ทำให้เกิดแนวคิดในการแทนที่ leased line หรือ Frame Relay ซึ่งมีราคาแพงด้วย Internet ที่มีราคาถูกกว่า แล้วตั้งชื่อ Virtual Private Network 

Private Network เน็ตเวิร์กส่วนตัว ซึ่งถูกแบ่งแยกออกมาจาก Public Network ตัว Public Network หรือที่เรียกว่า Internet หรืออภิมหาเครือข่าย ซึ่งต่อโยงเป็นใยกันไปทั่วโลกนั้นเองโดยปกติ

การต่อโยงของคอมพิวเตอร์ใน Public Network นั้นใช้โพรโตคอล TCP/IP ซึ่งเป็น Unique คือ  เป็นกฎตายตัวว่าอุปกรณ์เครือข่าย (Network Device) แต่ละตัว ต้องมีเลข IP ที่ไม่ซ้ำกัน ถ้าซ้ำกัน ก็จะใช้งานไม่ได้เลย การเติบโตของกลุ่มเครือข่ายส่วนตัว (Private Network) ทำให้ต้องมีการกำหนด IP Address เฉพาะ ซึ่งเป็นข้อตกลงสากลที่กลุ่มเครือข่ายส่วนตัว (Private Network) สามารถนำเลข IP เหล่านี้ไปใช้ได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะซ้ำกับใคร

IANA ที่เป็นองค์กรกำหนดนโยบายเกี่ยวกับเน็ตเวิร์ก ตาม rfc 1918 ของ IANA ว่าด้วย private ip ที่มีให้ใช้อยู่ มีระบุดังตารางต่อไปนี้



อย่างไรก็ตาม จากเอกสารกำหนดจัดการ Router ของ 3com (OfficeConnect) ซึ่งเป็นข้อมูลอ้างอิง จากคู่มือการกำหนดค่าของเราต์เตอร์ ,IP Sharing ของอุปกรณ์เครือข่าย ยี่ห้อ 3COM เลข IP ที่นำไปใช้ได้มีดังตารางต่อไปนี้


จะเห็นว่าทั้งสองตารางนั้นแตกต่างกัน ตารางแรกนั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของ IANAแต่ตาราง ที่สองเป็นไปตามข้อกำหนด ของการติดตั้งระบบเครือข่ายเวลาใช้งานจริง จะเห็นว่าเลข 0 กับ 255 จะไม่ค่อยมีการกำหนดการใช้งาน ก็มีหลากหลายครับ กลุ่มที่นิยมในการใช้งานก็มีทั้ง 10 , 169 , 192 โดยมากจะเป็น 10 กับ 192 ที่นิยมกัน แล้วแต่องค์กร ถ้าขนาดเล็กก็ใช้ 192 แต่ถ้าขนาดใหญ่ก็ใช้ 10 นอกจากนี้จะมีกลุ่มหมายเลข 169.254.0.1- 169.254.254.254 ขึ้นมาด้วยซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่สอด คล้องตามข้อกำหนดของ IANA แต่ก็ถูกนำมาใช้ เพราะกลุ่มเลขดังกล่าวไม่มีการไปใช้กับอุปกรณ์เครือข่ายใดๆ

เวลาที่ต้องการติดตั้ง VPN (Virtual Private Network) โดยมาก ถ้าเอาตาม<ความถูกต้องและความเคยชินแล้ว เขาก็ มักจะใช้ค่า IP เหล่านี้ในการกำหนดของแต่ละกลุ่มกัน แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ทำตามนี้จะเกิดความเสียหายอะไรหรือไม่ คำตอบ ก็คือ โดยมากไม่พบว่าเกิดความเสียหาย เพราะโดยส่วนใหญ่การต่อเชื่อมเข้าใช้งานบรรดาเครือข่ายสาธารณะ (Public Network) จะมีอุปกรณ ์เราต์เตอร์ในการแปลงหมายเลข IP โดยใช้เทคโนโลยี NAT (Network Address Transferring) กันอยู่แล้ว แต่ทางที่ดี เพื่อป้องกันปัญหาทั้งหมด ควรใช้เลข IP ที่กำหนดไว้ดังตารางข้างบนดีกว่า แต่ปัญหาจะเกิดขึ้น เมื่อซื้ออุปกรณ์ต่อ เชื่อมอินเทอร์เน็ตพวก SOHO อย่าง 3COM OfficeConnect , Intel Internet Station ส่วนใหญ่อุปกรณ์เหล่านี้จะกำหนด มาเป็นมาตรฐานว่าตัว Gateway และตัว DHCP จะกระจายค่า IP ในกลุ่ม Private IP นี้ให้กับ Client อยู่แล้ว ซึ่งไม่ควร ไปเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

ที่มา : http://www.siamvision.com/en/it/it_detail.php?header_news=Private%20Network%20%A4%D7%CD%CD%D0%E4%C3&news_id=184

No comments:

Post a Comment

 
VPN Hide IP © 2012-2013 | Designed by Plantillas Blogger | ข่าวไอที โดย ไอทีเมามันส์